ผบ.ทร. นำกำลังพลทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล ในหลวง ร.9 

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 438 ครั้ง

5 ธันวาคม วันพระบรมราชสมภพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารเรือ นำกำลังพลทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล พร้อมจัดกิจกรรม น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

วันนี้ (4 ธ.ค.66) กองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรม เนื่องในวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 โดยได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุและสามเณร จำนวน 89 รูป พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ณ บริเวณลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

โดยในเวลา 07.10 น. พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุและสามเณร จำนวน 89 รูป ณ บริเวณลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ โดยนิมนต์พระสงฆ์จาก วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร จำนวน 30 รูป วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร จำนวน 20 รูป วัดชิโนรสารามวรวิหาร จำนวน 19 รูป วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จำนวน 14 รูป และวัดนาคกลางวรวิหาร จำนวน 6 รูป โดยมี นางกีรตา พันธุ์เอี่ยม นายกสมาคมภริยาทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา เข้าร่วมพิธี

ต่อมาในเวลา 08.10 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ และ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้นำคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา ร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร โดยมี พระธรรมราชานุวัตร (สุทัศน์ วรทสฺสี) เจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

จากนั้นในเวลา 09.10 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ

และเวลา 10.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือพร้อมภริยา รวมทั้งกำลังพลจิตอาสาในส่วนของกองทัพเรือ ร่วมกับประชาชนจากชุมชน เขตบางกอกน้อย บางกอกใหญ่ และนักเรียนจากสถานศึกษาบริเวณใกล้เคียง ได้เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ณ บริเวณโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา และโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ โดยทำความสะอาดและปรับภูมิทัศน์บริเวณโรงเรียนซางตาครู้สศึกษา และโรงเรียนซางตาครู้สคอนแวนท์ อันเป็นการสนองพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการดำเนินการพัฒนาสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน การสร้างความกินดีอยู่ดี และการเสียสละเพื่อส่วนรวมให้กับประชาชนในทุกด้าน รวมทั้งเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น พัฒนาพื้นที่ชุมชนกุฎีจีน การพัฒนาพื้นที่ชุมชนวัดกัลยาณ์ และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ได้มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และตั้งจุดบริการประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า บริการตัดผม ตรวจรักษาโรคทั่วไป แสดงดนตรี แจกอาหารและน้ำดื่ม

ในส่วนของ หน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือ ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ ทัพเรือภาคที่ 1 ทัพเรือภาคที่ 2 ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่ 22 จังหวัด ร่วมกันเก็บขยะชายหาด บริจาคโลหิต พร้อมทั้งประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์ตามวัด มัสยิด และเก็บขยะริมชายหาด และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ทำจิตอาสาพัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา และบริจาคโลหิต

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ แผ่ไพศาลต่อพสกนิกรชาวไทย กองทัพเรือนับเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ทรงมีพระราชดำริให้กองทัพเรือสร้างเรือยนต์รักษาฝั่งไว้ใช้ได้เองโดยไม่ต้องจัดหาจากต่างประเทศ ซึ่งในปี พ.ศ.2510 กรมอู่ทหารเรือ สามารถสร้างเรือยนต์รักษาฝั่งได้จำนวน 1 ลำ คือ เรือ ต.91 โดยพระองค์ได้พระราชทานคำแนะนำในการสร้างเรื่อยมาจนกระทั่งการต่อเรือเสร็จสมบูรณ์ และสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้พระองค์ได้มีพระราชดำรัสที่สำคัญตอนหนึ่งว่า “บรรดาเรือรบที่ใช้ในราชการเป็นเรือที่สั่งทำจากต่างประเทศ การที่ราชการกองทัพเรือสามารถเริ่มการต่อเรือยนต์รักษาฝั่งขึ้นใช้ในราชการได้เช่นนี้ จึงควรเป็นที่น่ายินดี และน่าสนับสนุนอย่างยิ่ง นับว่าเป็นความเจริญก้าวหน้าของกองทัพเรือ”

นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสนพระทัยและทรงเอาใจใส่ต่อกองทัพเรือเป็นอย่างยิ่ง ดังพระราชดำรัสของพระองค์ที่ว่า “เรือรบขนาดใหญ่มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายปฏิบัติงานสูง กองทัพเรือจึงควรใช้เรือที่มีขนาดเหมาะสม และสร้างได้เอง ซึ่งเมื่อสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.91 ได้แล้ว ควรขยายแบบเรือให้ใหญ่ขึ้น และสร้างเพิ่มเติม” กองทัพเรือ จึงได้น้อมรับใส่เกล้าฯ และนำไปดำเนินการจนเกิดเป็นโครงการเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.991 ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติของกองทัพเรือ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา พระอัจฉริยภาพในด้านการต่อเรือของพระองค์ท่าน เป็นที่ประจักษ์แก่กำลังพลกองทัพเรือ นับตั้งแต่เริ่มโครงการ เรือ ต.91 จนถึงเรือ ต.991 พระองค์ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยให้แก้ไขแบบลายเส้น และรูปทรงของเรือ ซึ่งผลที่ได้จากการคำนวณเป็นไปตามที่ได้มีพระบรมราชวินิจฉัยไว้ กล่าวคือ เมื่อเปรียบเทียบกับผลการคำนวณเดิม ปรากฏว่า เรือ ต.991 มีความเร็วเพิ่มขึ้น และประหยัดเชื้อเพลิงได้ร้อยละ 6

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จฯ ไปทรงวางกระดูกงูเรือ ต.991 ที่กรมอู่ทหารเรือด้วยพระองค์เอง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเรือชุดถัดไป หลังจากนั้นในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ.2550 พระองค์ท่านและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเป็นประธานพิธีปล่อยเรือ ต.991 ลงน้ำ อันเป็นความปลื้มปีติแก่เหล่าทหารเรืออย่างหาที่สุดมิได้ รวมทั้งทำให้กองทัพเรือสามารถพัฒนาศักยภาพการต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.994 (ต.994 – ต.996) และชุดเรือ ต.997 (ต.997 – ต.998) รวมถึงเรือลำอื่น ๆ ที่ใช้ในราชการกองทัพเรือต่อมาตราบจนปัจจุบัน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 438 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน