มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 222 ครั้ง
วันที่ 6 ก.พ.67 รายงานข่าวจากสำนักงานปปช. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการปปช. มีมติเห็นชอบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ฉบับปรับปรุงหลังจากที่เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ดังนั้นป.ป.ช. มีมติอนุมัติหลักการร่างข้อเสนอแนะจากรายงานของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานฯ
แต่คณะกรรมการปปช.มีมติให้ปรับปรุงรายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล กรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ฉบับปรับปรุงใหม่ มีการปรับปรุงเนื้อหาของร่างข้อเสนอแนะฯฉบับเดิม 3 ประเด็นจาก 9 ประเด็นที่ นางสาวสุภา เสนอมา
รายงานข่าว กล่าวว่า เพราะข้อเสนอแนะในรายงานของนางสาวสุภา นั้นบางประเด็นมีรายละเอียดหรือข้อมูลไม่ครบถ้วน และอาจไม่เป็นธรรมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นหากกรรมการปปช.จะยึดรายงานของนางสาวสุภาทั้งหมดและผ่านความเห็นชอบไปนั้น อาจจะถูกบางฝ่ายตำหนิการทำหน้าที่ของปปช.ได้ จึงต้องปรับแก้ไขให้รายงานที่ปปช.จะเสนอต่อรัฐบาลให้มีความเป็นกลางและเป็นธรรม เพราะเร็ว ๆ นี้ปปช.จะต้องชี้มูลความผิดในคดีสำคัญ ๆ หลายคดีและเผยแพร่ให้สังคมรับทราบการทำหน้าที่ของปปช.ที่วินิจฉัยในคดีเหล่านั้นตามอำนาจหน้าที่
รายงานข่าว กล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า ว่าที่กรรมการปปช.ใหม่อีก 4 คนนั้นจะได้เริ่มทำหน้าที่เมื่อใด แม้ตอนนี้ปปช.จะมีกรรมการปปช. 5 คนจาก 9 คนที่สามารถทำงานได้ก็ตาม แต่ตอนนี้มีกระแสข่าวว่า อดีตกรรมการปปช.และอดีตที่ปรึกษากรรมการปปช.บางคนที่พ้นวาระและหน้าที่ไปแล้ว และมีข้อครหา รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดี ระหว่างการทำหน้าที่ในสำนักงานปปช.นั้น ทราบว่าบุคคลดังกล่าวกำลังพยายามที่จะกลับมาทำหน้าที่ที่ปรึกษากรรมการปปช.และอนุกรรมการบางคณะให้ได้ท่ามกลางการทักท้วงและการร้องเรียนความไม่เหมาะสมดังกล่าวเช่น ข่าวคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นกรรมการปปช.ในคราวนี้ทั้งที่มีการร้องเรียนผู้สมัครคนนั้นในการทำหน้าที่บอร์ดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งว่าไม่โปร่งใส, ข่าวร้องเรียนกรรมการปปช.และที่ปรึกษาปปช.บางคนว่าทำหน้าที่แบบสองมาตรฐานและไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ไปยังประธานปปช.แล้ว โดยทราบว่าบุคคลดังกล่าวกำลังประสานกับกรรมการปปช.ชุดใหม่และว่าที่กรรมการปปช.เพื่อขอรับหน้าที่ดังกล่าว
“เพราะทราบว่าหากอดีตกรรมการปปช.และอดีตที่ปรึกษากรรมการปปช.บางคนที่พ้นวาระไปแล้ว หากกลับมาทำหน้าที่ที่ปรึกษากรรมการปปช.และอนุกรรมการบางคณะได้ ก็เสมือนว่าบุคคลเหล่านั้นยังสามารถทำหน้าที่ในสำนักงานปปช.ได้ต่อเนื่องและอาจมีอิทธิพลในการให้ความเห็นเกี่ยวกับการชี้มูล/ไม่ชี้มูลความผิด รวมทั้งอาจมีผลกับการเสนอให้มีการทบทวนมติคำร้องและคดีต่าง ๆ ที่ทางปปช.ดำเนินการไปแล้วและกำลังดำเนินการ และตอนนี้มีหลายคดีที่สังคมให้ความสำคัญซึ่งมีการยื่นเรื่องมายังปปช.แล้ว
ดังนั้นการพยายามประสานงานผ่านการดีลของนายตำรวจใหญ่คนหนึ่งที่ผลักดันอดีตกรรมการปปช.และอดีตที่ปรึกษากรรมการปปช.บางคนให้กลับมาทำหน้าที่ในสำนักงานปปช.นั้น ทราบว่ากำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะมีบางคดีที่บางฝ่ายต้องการผลักดันให้มีผลในทางใดทางหนึ่งเกิดขึ้นให้ได้ จึงเกิดความพยายามประสานงานดังกล่าวให้ลุล่วง ตรงนี้ต้องติดตามว่าความพยายามดังกล่าวจะเกิดขึ้นและจะมีผลอย่างไรกับปปช.ในเร็ววันนี้และรอดูการพิจารณาของประธานปปช.ด้วยว่าจะอนุมัติการแต่งตั้งอดีตกรรมการปปช.และอดีตที่ปรึกษากรรมการปปช.บางคนให้กลับมาทำหน้าที่ในสำนักงานปปช.หรือไม่” รายงานข่าว กล่าว
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 222 ครั้ง