มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 334 ครั้ง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย.67 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท. ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/ศอ.ปส.ภ.1, พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี, พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติด “เอ็ม โรนินสิงห์บุรี” พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5,300,000 เม็ด มูลค่า 150 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว จำนวน 1 คัน (ใช้ลำเลียงยาเสพติด) จับกุมได้ที่ ริมถนนเลียบคันคลองส่งน้ำ 2 ซ้าย ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ต่อเนื่อง บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
สำหรับเครือข่าย “เอ็ม โรนิน สิงห์บุรี” จากการสืบสวนทราบว่าปัจจุบัน นายศรายุทธหรือเอ็ม ได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด โดยเป็นผู้สั่งการ และติดต่อซื้อ ขายยาเสพติดจากชนกลุ่มน้อย และจากการสืบสวนทราบว่า นายศรายุทธหรือเอ็ม ได้สั่งการให้นายวีระยุทธหรือเฟิร์ส และนางซไรตุซ สัญชาติกัมพูชา (แฟนสาวนายวีระยุทธหรือเฟิร์ส) ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มทีมลำเลียงภาคเหนือ มาเก็บไว้ภายในบ้านพักที่ตัวเองเช่าไว้ เพื่อรอส่งมอบให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดตอนในของประเทศไทย ตามคำสั่งของนายศรายุทธหรือเอ็ม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม จนสามารถจับกุมตัวนางซไรตุซ ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.บึงกาสาม อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี แต่นายวีระยุทธหรือเฟิร์ส ไหวตัวทันและหลบหนีการจับกุมไปได้
โดยเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา นายวีระยุทธหรือเฟิร์ส และ นางซไรตุซ ว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกล่าวหา นางซไรตุซ เพิ่มเติมว่าเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จากการซักถามขยายผล นางซไรตุซ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 150,000,000 บาท และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 334 ครั้ง