“อลงกรณ์” ชี้ “นายกฯ เศรษฐา” พลาดดีลไมโครซอฟท์แพ้มาเลฯ-อินโดฯราบคาบ ทำประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 188 ครั้ง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรี และ ส.ส.6 สมัย โพสต์บทวิจารณ์ความล้มเหลวของนายกรัฐมนตรี กรณีพลาดดีลไมโครซอฟท์ในเฟสบุ๊ค วันนี้ (4 พ.ค.) เรื่อง บทพิสูจน์ความล้มเหลว นายกฯ เศรษฐา กรณีไมโครซอฟท์ (Microsoft) แพ้มาเลฯ-อินโดฯ ราบคาบ ทำประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่ โดยมีเนื้อหาดังนี้

“ผมติดตามข่าว สัตยา นาเดลลา ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีของโลก มาเยือนอินโดนีเซีย ไทย และ มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-2 พฤษภาคม 2567 อย่างใจจดใจจ่อ

ทั้งนี้เพราะนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ทำให้เกิดความหวังจากการให้สัมภาษณ์หลังพบเจรจากับประธานและซีอีโอบริษัทไมโครซอฟท์ที่นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก้ ในเดือนกันยายนและพฤศจิกายนปีที่แล้ว ถึงขั้นทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) ว่า ดีลสำเร็จจะมีการลงทุนเป็นแสนล้านจากไมโครซอฟท์

ผมคาดหวังว่า สัตยา นาเดลลา ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ จะประกาศแผนงานโครงการและตัวเลขการลงทุนด้านดิจิตอลเทคโนโลยี และปัญญาประดิษฐ์ (AI-Artificial Intelligence) ในประเทศไทยเป็นแสนล้านตามเป้าหมายดิจิตอลฮับ ภายใต้วิสัยทัศน์ “Ignite Thailand” ของนายกรัฐมนตรีที่ให้ข่าวก่อนหน้านี้

เมื่อถึงวันที่ 1 พ.ค. 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ มาเยือนไทย กลับไม่มีการประกาศตัวเลขการลงทุนในไทยที่ชัดเจนแม้แต่สลึงเดียว มีเพียงคำแถลงว่าจะตั้งดาต้าเซนเตอร์แห่งแรกในไทย และจะสนับสนุนการพัฒนาคนไอที 100,000 คน

ทั้งที่ก่อนมาไทย 1 วัน คือ วันที่ 30 เมษายน 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ เดินทางเยือนอินโดนีเซีย และประกาศตัวเลขการลงทุน 1.7 พันล้านดอลลาร์ (กว่า 6 หมื่นล้านบาท) ในอินโดนีเซีย พร้อมแผนงานโครงการอย่างละเอียดชัดเจน

ยิ่งกว่านั้นในวันที่ 2 พ.ค. 2567 ซีอีโอ.ไมโครซอฟท์ ไปเยือนมาเลเซีย ได้ประกาศตัวเลขการลงทุนในมาเลเซีย 2.2 พันล้านดอลลาร์ (กว่า 8 หมื่นล้านบาท) เพื่อสนับสนุนความเป็นฮับดิจิตอลของมาเลเซีย

แสนล้านของไทยหายไปไหนครับ ?

ส่วนกรณีไมโครซอฟท์จะตั้งดาต้าเซนเตอร์แห่งแรกในไทยเป็นความชัดเจนเท่าที่จับต้องได้ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าไมโครซอฟท์มีดาต้า เซนเตอร์กว่า 300 แห่ง ทั้งระดับประเทศ และระดับภูมิภาคใน 34 ประเทศทั่วโลก

เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาคนไอทีที่ไมโครซอฟท์จะช่วยไทย 1 แสนคน นั้นน้อยกว่าที่จะช่วยมาเลเซีย 2 แสนคน และอินโดนีเซีย 8 แสนกว่าคน

การเปิดดีลและปิดดีลที่มีเวลาทำงานยาวนานกว่า 7 เดือน ตั้งแต่ปลายกันยายน 2566 ถึง 1 พฤษภาคม 2567 ของนายกรัฐมนตรี ในการดึงไมโครซอฟท์มาลงทุนในไทยล้มเหลวไม่เป็นท่า และพ่ายแพ้ต่อมาเลเซีย-อินโดนีเซีย แบบราบคาบ

ผมหวังว่า ความล้มเหลวในการทำงานกรณีไมโครซอฟท์จะเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปรับปรุงการทำงานแบบผู้บริหารประเทศ ไม่ใช่แบบเซลล์แมนโฉบไปโฉบมาจนจับต้องอะไรไม่ได้

ท่านต้องตระหนักว่า ท่านทำให้ประเทศเสียโอกาสครั้งใหญ่ในห้วงเวลาที่ประเทศต้องการรายได้และเงินลงทุนเพราะทุกบาท ทุกดอลลาร์ คืองาน และปากท้อง ของประชาชนคนไทย

ผมยังกังวลว่า ขณะที่ท่านไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ในการดึงเงินลงทุนเข้าประเทศ และไม่สามารถหาเงินเข้าประเทศ จนส่งออกติดลบ 10% ขาดดุลการค้าหลายแสนล้าน ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำฝืดเคืองไปทุกหย่อมหญ้า

แทนที่นายกรัฐมนตรีจะรีบปรับปรุงการทำงานเร่งทำมาหากินสร้างเงินให้ประเทศ ท่านกลับคิดแต่จะกู้เงินก่อหนี้ให้ประเทศอีกกว่า 1 ล้านล้านบาทในปีนี้และปีหน้า แล้วประชาชนจะอยู่กันอย่างไร และประเทศจะเป็นอย่างไร จะให้ประชาชนและประเทศชาติติดหล่มจมปลักอยู่กับหนี้สินโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ”

ข้อมูลประกอบ

Microsoft announces US$2.2 billion investment to fuel Malaysia’s cloud and AI transformation – Microsoft Stories Asia

Microsoft announces US$1.7 billion investment to advance Indonesia’s cloud and AI ambitions – Microsoft Stories Asia

Microsoft announces significant commitments to enable a cloud and AI-powered future for Thailand – Microsoft Stories Asia

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 188 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน