มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 270 ครั้ง
วันนี้ (8 พ.ค.67) ที่ สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 เดินทางมาติดตามคดีเครือข่ายเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ สภ.บางใหญ่ โดยมี พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1, นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล ปลัดจังหวัดนนทบุรี, พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, น.ส.ญาณพัชญ์ ศรีโคตร นายอำเภอบางใหญ่, พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.ท.ธนเดช ทีนาคะ รรท.ผกก.สภ.บางใหญ่ ให้การต้อนรับ
โดยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 นางสุพัตรา หรือยายสุข อายุ 75 ปี อาชีพแม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ว่าเมื่อเวลา 13.00 น. ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน บริเวณอาคารบางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดที่หน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาทวงเงินที่หน้าร้าน และใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้ง จนฟกช้ำ และกระชากเสื้อจนล้มลง พร้อมท้าให้ไปแจ้งความที่โรงพักและพยายามจะดึงตัวยายสุขขึ้นรถ แต่ยายสุขขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถไปกับชายคนดังกล่าวเพราะกลัวว่าจะถูกพาไปทำร้ายที่อื่น ก่อนชายคนดังกล่าวจะพังข้าวของที่ร้านจนเละเทะ และถ่มน้ำลายใส่ พร้อมข่มขู่ว่าถ้าเปิดร้านอีกก็จะเข้ามาพังร้านอีก
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อภายหลังว่า นายกมลแพทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 และ นายจำนงค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย , ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต , เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด”
โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ ได้กล่าวว่า “ในกรณีดังกล่าวเป็นการยืมเงินกันตั้งแต่ปี 2566 แล้ว โดยเป็นการเรียกดอกลอย จำนวนเงิน 100 บาท จากคนที่ชื่อก้อง ซึ่งวันนี้ทางตำรวจยังไม่ได้ตัวนายก้องที่ทางคุณยายบอกว่าได้กู้เงินมา อยู่ระหว่างติดตามตัว ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนฯจ.นนท์ และสืบฯสภ.บางใหญ่ ร่วมกับ ฝ่ายปกครอง สามารถติดตามจับกุมแก๊งเงินกู้ได้ 2 คน ตามตัวที่อยู่ในคลิปดังกล่าวได้ภายในหนึ่งวัน
พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า เจ้าของเงินกู้จริง ๆ คือ นายกลมแพทย์ ตำรวจจึงทำการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองราย ให้การสารภาพว่า เป็นคนนำเงินมาปล่อยกู้ยืมเงินจริงและเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนดจริง ส่วนเรื่องทำร้ายร่างกายทางผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ยังให้การภาคเสธ และได้ถมน้ำลายจริงแต่ไม่โดนหน้าผู้เสียหาย อย่างไรก็ตามจะต้องทำการสอบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมในประเด็นนี้
พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้ทางด้าน นายกมลแพทย์ ก็ยังให้การว่า ตนได้มีเงินสำหรับปล่อยเงินกู้จำนวน 30,000 บาท โดยปล่อยให้ 3 ราย เท่านั้น ซึ่งทางผู้ต้องหาได้ตามเอาเงินมาทั้งหมดแล้ว เหลือแต่เพียงคุณป้าที่เป็นรายที่ 3 ซึ่งพยานหลักฐานในขณะนี้ยังไม่สามารถพาดพิงถึงทางผู้ต้องหาได้ว่ามีการตระเวนปล่อยเงินกู้ในพื้นที่
เบื้องต้นตำรวจ ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย , ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต , เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด” ทั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเครือข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 270 ครั้ง