มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 246 ครั้ง
วันนี้ (29 ส.ค.67) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ขอบิณฑบาตทั้งคนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่หยุดวิวาทะ เพราะจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ มีอะไรก็ไปพูดคุยหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือที่ประชุมส.ส. พรรคประชาธิปัตย์มีประชาธิปไตย ภายในพรรคที่ยอมรับความเห็นต่าง และตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่จะแพ้หรือชนะก็ถือเป็นที่สุด พรรคเคยพิจารณาว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านมาหลายครั้งตลอด 78 ปี นับแต่ก่อตั้งพรรคเมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
นายอลงกรณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ได้ช่วยกันสร้างผลงานให้กับพรรคมาด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่คนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ตนเชื่อว่าทุกคนรักพรรค และไม่มีใครรักพรรคมากไปกว่าใคร ควรพูดจากันด้วยเหตุผลอย่างมีสติ คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม และประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เราไม่ควรไปตำหนิดูแคลนหรือกล่าวหาว่าเข้ามาเพื่อแสวงประโยชน์ ซึ่งไม่เป็นธรรมกับหัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหาร และส.ส.ของเรา เพราะเพิ่งเข้ามารับผิดชอบพรรค ในช่วงที่พรรคตกต่ำยังไม่ถึงปีจะให้มีผลงานเทียบเท่าชุดก่อนคงไม่ได้ เพราะเขาก็ตั้งใจทำงานทั้งในและนอกสภา มุ่งมั่นจะกอบกู้พรรคเช่นกัน หรือหากมีใครทุจริตประพฤติมิชอบพรรคก็ต้องจัดการไม่เอาไว้ ส่วนการร่วมรัฐบาลจะผิดถูกอย่างไร หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชอบอยู่แล้วตามระบบพรรคของเรา สำหรับการสร้างประเด็นข่าวเรื่องการขับนายชวนก็เป็นเรื่องไร้สาระ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยขับคนที่เห็นต่างออกจากพรรค ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค ส.ส.หรือผู้บริหารพรรค
“เราควรให้เกียรติกันและกัน ช่วยกันฟื้นฟูพรรค ไม่ใช่คอยแต่ด้อยค่ากันเอง เพราะมีแต่ทำให้พรรคเสียหาย คนเสียกำลังใจ วันนี้การเมืองเปลี่ยนไปมาก โลกเปลี่ยนไปเร็ว เราต้องปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยในทางที่ดี มีศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ และยึดมั่นในปฐมอุดมการณ์ของพรรค ทุกคนต้องช่วยกันคิดวิสัยทัศน์ และนโยบายที่ก้าวหน้าทันสมัย ทำงานหนักเพื่อประชาชน และประเทศชาติ ช่วยกันนำพรรคกลับมาเป็นทางเลือกหลักของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง”
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 246 ครั้ง