ราชทัณฑ์ จัดประกวดระเบียบแถวสวนสนาม ลูกเสือราชทัณฑ์ รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 225 ครั้ง

กรมราชทัณฑ์ จัดการประกวดระเบียบแถวสวนสนาม ลูกเสือราชทัณฑ์ รอบชิงชนะเลิศระดับประเทศ ประจำปี 2567

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.67 ที่ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประกวดระเบียบแถวสวนสนามลูกเสือราชทัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ร่วมพิธีดังกล่าว

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ จัดการประกวดระเบียบแถวสวนสนาม ลูกเสือราชทัณฑ์ขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาพฤตินิสัยและส่งเสริมให้ผู้ต้องขังมีระเบียบวินัย มีความเข้มแข็ง อดทน มีความเป็นผู้นำ ความสามัคคี รู้จักความเสียสละช่วยเหลือผู้อื่น สร้างประสบการณ์ชีวิต เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม โดยในครั้งนี้มีเรือนจำ/ทัณฑสถาน สมัครเข้าร่วมการประกวดทั้งสิ้น จำนวน 42 แห่ง รวม 44 ทีม โดยกองลูกเสือประเภทผู้ต้องขังชาย ที่ชนะเลิศการแข่งขัน ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ เรือนจำกลางนครปฐม รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ เรือนจำกลางระยอง ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 30,000 บาท และรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ เรือนจำกลางชลบุรี ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 20,000 บาท สำหรับกองลูกเสือประเภทผู้ต้องขังหญิงที่ชนะเลิศการแข่งขัน ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 40,000 บาท ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงชลบุรี ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 30,000 บาท และรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ และเงินรางวัล 20,000 บาท ตามลำดับ

กิจกรรมลูกเสือวิสามัญ และระเบียบแถวสวนสนาม นับเป็นอีกหนึ่งในเครื่องมือที่กรมราชทัณฑ์ นำมาพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ คุณธรรม และจริยธรรม มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นำ ผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ ความสามัคคี และรู้จักเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยมุ่งหวังให้เขาเหล่านี้ได้นำประโยชน์ที่ได้จากกิจกรรมดังกล่าว ไปปรับใช้ในชีวิตภายหลังพ้นโทษ และไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำ ถือเป็นการคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคมต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 225 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน