ตม. ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ยากูซ่าญี่ปุ่น” ตั้งฐานชลบุรี โทรหลอกเหยื่อญี่ปุ่น 5 ล้านต่อวัน

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 104 ครั้ง

วันนี้ (18 ธ.ค.67) เวลา 11.00 น. ที่ห้องสวนพลู ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.นนทบุรี พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) หัวหน้ากลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “ยากูซ่าญี่ปุ่น” 5 ราย ที่บ้านพักหรู 2 แห่งใน จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจาก บก.สส.สตม. ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย กรณีมีกลุ่มคนร้ายลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น เป้าหมายเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยหลอกลวงว่าจะได้รับเงินประกันสุขภาพคืน ซึ่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่นนี้ จะทำงานตั้งแต่วันจันทร์ – วันเสาร์ โดยมีรูปแบบการหลอกลวงว่า “เป็นการขอคืนเงินค่ารักษาพยาบาล โดยใช้โทรศัพท์หลอกลวงผู้สูงอายุในญี่ปุ่น โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ” ซึ่งคอลเซ็นเตอร์สายแรกจะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐ โทรศัพท์ไปอธิบายกับเหยื่อที่ประเทศญี่ปุ่นว่าจะมีการคืนค่ารักษาพยาบาลสะสมจำนวนหลายล้านเยน และจะให้เหยื่อทำการเตรียมเงินไว้ในบัญชี ตั้งแต่จำนวน 500,000 เยน ขึ้นไป จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อไปทำรายการโอนเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มไปยังบัญชีของคนร้าย เมื่อเหยื่อโอนเงินให้แล้ว หัวหน้าแก๊งก็จะสั่งการให้ลูกน้องไปถอนเงินออกจากบัญชีโดยพบความเสียหายแล้วกว่าวันละหลายสิบล้านเยน

จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักลอบจัดตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์อยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จำนวน 2 แห่ง จึงได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

จุดที่ 1 บ้านพูลวิลล่าหรู (บ้านระดับหัวหน้าสั่งการ) จากการตรวจค้นพบคนต่างด้าว สัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายทากายูกิ (สงวนนามสกุล) และนายฮาจิเมะ (สงวนนามสกุล) พักอาศัยอยู่ มีพฤติการณ์เป็นผู้ควบคุมและสั่งการพนักงานคอลเซ็นเตอร์ พร้อมพบพยานหลักฐานโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 42 รายการ และพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง ได้แก่ ภาพการสนทนากับสมาชิกคอลเซ็นเตอร์, สคริปและข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง เป็นต้น

จุดที่ 2 บ้านพูลวิลล่า (บ้านทำคอลเซ็นเตอร์) จากการตรวจค้นพบคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่น จำนวน 3 ราย ได้แก่ นายเคนจิโระ (สงวนนามสกุล), นายทากาฮิโระ (สงวนนามสกุล) และ นายคัตสึฮิโตะ (สงวนนามสกุล) พักอาศัยอยู่ มีพฤติการณ์ในการเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ พร้อมพบพยานหลักฐานโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต กระดานรายชื่อ ข้อมูลของผู้เสียหาย รวมจำนวน 37 รายการ และพบพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง ได้แก่ ภาพสคริปการสนทนากับเหยื่อ ข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง เป็นต้น

จากพฤติการณ์และพยานหลักฐานดังกล่าว เป็นที่น่าเชื่อว่าคนต่างด้าวทั้ง 5 ราย เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม ผบก.สส.สตม. จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จากนั้นได้นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวไว้รอการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า หัวหน้าแก๊งเคยเป็นสมาชิกยากูซ่า แก๊งยามากูจิ ในประเทศญี่ปุ่น โดยตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวง มูลค่าความเสียหายรวมเป็นเงิน 24,000,000 เยน/วัน หรือประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดนำเงินไปฟอกโดยการเปิดธุรกิจมีลักษณะการใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการกระทำความผิดต่อไป

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 104 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน