มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 200 ครั้ง
ตำรวจ สภ.วังเจ้า สนธิกำลังตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ระดมกวาดล้างอาชญากรรม รวบ 2 พี่น้องทาสยา ยึดของกลาง ยาบ้า 177 เม็ด พร้อมปืนแก๊ป และกระสุน
วันนี้ (18 ก.พ.68) เวลา 06.00 น. ตำรวจ สภ.วังเจ้า สนธิกำลังตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตำรวจทางหลวง สท.1 กก.5 บก.ทล. ตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.3 กก.3 บก.ทท.2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำหมายศาลจังหวัดตาก เข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก จับกุมตัว นายบี แซ่มัว อายุ 28 ปี และ นายหื้อ แซ่มัว อายุ 25 ปี สองพี่น้องทาสยา พร้อมยึดของกลางยาบ้า จำนวน 177 เม็ด ปืนแก๊ป 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 2 ชุด
สืบเนื่องจากตำรวจ สภ.วังเจ้า ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหายว่า นายบี เข้าไปลักทรัพย์สินในบ้าน ต่อมา พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลจังหวัดตากออกหมายจับนายบี ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (18 ก.พ.68) ตำรวจ สภ.วังเจ้า สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เจอนายหื้อ นอนอยู่ภายในบ้าน จึงได้ให้พาตรวจค้น
พบปืนแก๊ป และกระสุนปืนของกลางดังกล่าวภายในบ้าน และพบยาบ้า จำนวน 177 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ใต้ที่นอนของนายหื้อ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ยาบ้าที่พบเป็นของตนเอง ส่วนกระสุนปืน และปืนแก๊ป อีกกระบอกเป็นของนายบี ซึ่งขณะนี้ได้ไปพักอยู่ที่บ้านของพี่สาวในหมู่บ้านวังตำลึง เจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบกับนายบี จึงได้แสดงตัว และหมายจับ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ และยังไม่เคยถูกจับมาก่อน ในชั้นจับกุมนายบี ให้การรับสารภาพว่า ปืน และกระสุนของกลางเป็นของตนเอง แต่ปฏิเสธข้อหาตามหมายจับ โดยอ้างว่าไม่ได้ไปลักทรัพย์ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากหลักฐานที่ผู้เสียหายนำมาแจ้งความเป็นคลิปวงจรปิดขณะที่นายบี กำลังก่อเหตุ
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” กับนายบี ส่วนนายหื้อ ตำรวจแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้เพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังเจ้า เพื่อดำเนินคดีต่อไป
มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 200 ครั้ง
