“วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เปิดโครงการ Mahabbah Ramadan อ้อมกอดแห่งรอมฎอนสู่เรือนจำ ณ เรือนจำพิเศษมีนบุรี

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 100 ครั้ง

วันนี้ (16 มี.ค.68) เวลา 17.00 น. ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการ “Mahabbah Ramadan อ้อมกอดแห่งรอมฎอนสู่เรือนจำ พร้อมด้วย นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ร่วมเป็นเกียรติในพิธี โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ นายวัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี ให้การต้อนรับ

เนื่องในโอกาสแห่งเดือนรอมฎอนอันประเสริฐที่มุสลิมทั่วโลกร่วมปฏิบัติศาสนากิจ กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ตระหนักในคุณค่าและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้เรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ นำหลักธรรมคำสอนทางศาสนามาใช้เป็นเครื่องมือที่สำคัญในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ให้สอดคล้องกับความเชื่อในศาสนาของผู้ต้องขังแต่ละคน โดยผ่านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังและวางแผนการปฏิบัติรายบุคคลอย่างเหมาะสม

เรือนจำพิเศษมีนบุรี จึงได้จัดโครงการ “Mahabbah Ramadan อ้อมกอดแห่งรอมฎอนสู่เรือนจำ” ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลิกภาพ ฝึกความอดทนทั้งทางร่างกายและฝึกจิตใจของผู้ถือศีลอด ให้มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเสียสละและรับผิดชอบต่อสังคม และที่สำคัญคือ การคืนคนดีมีคุณค่าสู่สังคม และจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากภาคสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วมสนับสนุน ให้กำลังใจและให้โอกาสแก่ผู้ต้องขัง ดังคำขวัญที่ว่า “ราชทัณฑ์แก้ไข คนไทยให้โอกาส” ซึ่งในโครงการฯ ได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป ได้บริจาคปัจจัยต่าง ๆ ในกิจกรรมถือศีลอดเพื่อร่วมเป็นกำลังใจในการเสริมสร้างให้ผู้ต้องขังทำความดี

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ มีผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม เข้าร่วมโครงการ “Mahabbah Ramadan อ้อมกอดแห่งรอมฎอนสู่เรือนจำ” ซึ่งโครงการดังกล่าว สอดคล้องกับนโยบายและแนวทางการดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ. 2568 ของกระทรวงยุติธรรม ด้านการพัฒนาระบบหรือโปรแกรมการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยผู้กระทำผิด ที่หลากหลายและมีความเฉพาะเจาะจงในแต่ละกลุ่ม เช่น การจำแนกลักษณะจากความเชื่อ ความศรัทธาในศาสนาของผู้ต้องขังแต่ละคน เพื่อส่งเสริมด้านการพัฒนาจิตใจ โดยการใช้ศาสนาเข้ามาปรับเปลี่ยนทัศนคติให้เป็นไปในทางที่ดีต่อตนเองและผู้อื่น ตลอดจนกลับคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดต่อสังคมต่อไป

มีผู้อ่านข่าวนี้แล้ว 100 ครั้ง

You May Also Like

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

แสดง
ซ่อน